สาเหตุของการเกิดสิว

สิวคืออะไร?

สิว (Acne) เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย แต่พบมากที่สุดในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น สิวเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างต่อมไขมันและเส้นขน ต่อมไขมันมีหน้าที่ผลิตน้ำมันหรือซีบัม (Sebum) ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาความชุ่มชื้นของผิว แต่เมื่อเกิดการอุดตันจากการสะสมของซีบัมและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิวจะเริ่มปรากฏขึ้น สิวอาจเกิดขึ้นในรูปแบบสิวอุดตัน (Comedones) ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภท ได้แก่สิวหัวขาว (Closed Comedones) และสิวหัวดำ (Open Comedones)

ในกรณีที่มีแบคทีเรียชนิด Propionibacterium acnes (P. acnes) เจริญเติบโตในรูขุมขน แบคทีเรียนี้จะทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบ (Inflammatory Acne) ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่สิวหัวหนอง (Pustules) สิวหัวช้าง (Nodules) หรือสิวซีสต์ (Cystic Acne) สิวประเภทหลังนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดแผลเป็นและรอยดำหลังการรักษา

ชนิดของสิว

สิวสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะที่พบในผิวหนัง ดังนี้:

สิวที่ไม่มีการอักเสบ

  • สิวหัวขาว (Closed Comedones): เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่ปิดสนิท มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็กที่ผิวหนัง
  • สิวหัวดำ (Open Comedones): เกิดจากการอุดตันที่รูขุมขนเปิด ทำให้สัมผัสกับอากาศแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากการเกิดออกซิเดชัน

สิวที่มีการอักเสบ

  • สิวตุ่มแดง (Papules): เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก
  • สิวตุ่มหนอง (Pustules): เป็นสิวที่มีการอักเสบและมีหนองอยู่ด้านใน ซึ่งมักเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • สิวหัวช้าง (Nodules): สิวขนาดใหญ่ที่ฝังลึกลงไปในผิวหนังและมักเจ็บมาก
  • สิวซีสต์ (Cystic Acne): สิวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและฝังอยู่ลึกในชั้นผิวหนัง มักเป็นซีสต์ที่เต็มไปด้วยหนองและมีโอกาสเกิดแผลเป็นสูง

กลไกการเกิดสิว

กลไกการเกิดสิวเริ่มต้นจากการอุดตันของรูขุมขน เมื่อซีบัมและเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่สามารถถูกขับออกไปตามรูขุมขนได้ ซีบัมจะสะสมอยู่ภายในท่อน้ำมัน ทำให้เกิดการอุดตัน เมื่อเกิดการอุดตันในสภาวะที่ไม่มีออกซิเจน แบคทีเรีย P. acnes จะสามารถเจริญเติบโตได้ดี โดยแบคทีเรียชนิดนี้เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในผิว แต่เมื่อมีปริมาณมากเกินไปและก่อให้เกิดการอักเสบ ร่างกายจะตอบสนองด้วยการส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวไปต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้เกิดอาการบวมแดง ซึ่งเป็นลักษณะของสิวอักเสบ

นอกจากนี้ การตอบสนองของร่างกายยังรวมถึงการสร้างสารคีโตไคน์ (Cytokines) และโปรตีนอักเสบอื่น ๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเข้าทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการสะสมของหนองในสิวตุ่มหนอง หากกระบวนการนี้ไม่สามารถควบคุมได้ สิวอักเสบอาจลุกลามไปยังชั้นผิวหนังลึกขึ้น ทำให้เกิดสิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นหลังสิว

สาเหตุของการเกิดสิว

การเกิดสิวเป็นปัจจัยที่มีความซับซ้อนและหลายสาเหตุ ปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน กรรมพันธุ์ พฤติกรรมการดูแลผิว อาหาร ยา และสภาพแวดล้อม โดยสามารถแบ่งสาเหตุของสิวได้เป็นสองกลุ่มหลัก คือ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายในร่างกาย

  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศที่พบในทั้งเพศชายและเพศหญิง มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ฮอร์โมนแอนโดรเจนมักจะสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่น และในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมน เช่น ช่วงมีประจำเดือนในผู้หญิง การตั้งครรภ์ และช่วงก่อนหมดประจำเดือน
  • กรรมพันธุ์: หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นสิวเรื้อรัง มีโอกาสที่ลูกหลานจะได้รับผลกระทบจากกรรมพันธุ์นี้ด้วย ซึ่งการสืบทอดลักษณะทางพันธุกรรมนี้มีผลต่อการตอบสนองของผิวหนังต่อฮอร์โมนและการผลิตซีบัม
  • ผิวหนังที่ไวต่อการระคายเคือง: ผิวที่มีลักษณะมันหรือผิวที่มีการผลิตซีบัมมากเกินไปจะมีแนวโน้มเกิดสิวมากกว่า เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการอุดตันของรูขุมขน

ปัจจัยภายนอก

  • การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง: ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางบางชนิดอาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน สารที่มักพบว่าเป็นสาเหตุของสิวได้แก่ น้ำมันแร่ (Mineral Oil), ซิลิโคน และพาราเบน (Parabens) การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิว
  • อาหาร: อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง (High Glycemic Index) เช่น น้ำตาล ขนมปังขาว และของหวาน อาจกระตุ้นการผลิตซีบัมและทำให้เกิดสิว การศึกษาบางชิ้นยังชี้ว่าอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัวอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เนื่องจากนมมีฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการเพิ่มระดับอินซูลินในเลือดและการกระตุ้นการผลิตซีบัม
  • ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ: ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตซีบัมและทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และทำให้ผิวหนังฟื้นตัวช้าเมื่อเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
  • ยา: ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาสเตียรอยด์ และยาที่มีส่วนผสมของลิเทียม (Lithium) สามารถทำให้เกิดสิวเป็นผลข้างเคียงได้

การรักษาสิวจะขึ้นอยู่กับชนิดของสิวและสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ควบคุมการผลิตซีบัม และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย P. acnes เช่น ยาทาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การรักษาความสะอาด และการดูแลผิวอย่างถูกต้องจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวและรักษาสิวในระยะยาวได้